วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557

ปัญหาชายเเดนพม่า

กองทัพพม่าภายใต้การนำของนายพลเนวิน ได้ทำการปฏิวัติ ล้มล้างรัฐบาล ซึ่งมีนายลูนุเป็นนายกรัฐมนตริ และได้ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับที่ใช้อยู่ และล้มเลิกระบอบรัฐสภาเสีย โดยการจัดตั้งสภาปฏิวัติ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 16 นาย โดยมีนายพลเนวิน ได้รับการเลือกจากสภาปฏิวัติให้เป็นประธาน    ซึ่งมีตำแหน่งเทียบเท่าประมุขของรัฐและในการปกครองประเทศนั้น สภาคณะปฏิวัติได้มอบ อำนาจการบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการให้นายพลเนวินแต่เพียงผู้เดียวดำเนินการปก ครองประเทศด้วยระบบอำนาจนิยมภายใต้ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม และต่อมาใน ปี พ.ศ.2516 สภาปฏิวัติได้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นใช้แทนฉบับเติม 

ซึ่งมีหลักการ สำคัญคือ การกำหนดให้พม่าเป็นสาธารณรัฐสังคมนิยมแห่งสหภาพพม่า ดำเนินการปก ครองตามระบบสังคมนิยมประชาธิปไตย ( Socialist Democracy )โดยมีสภาเพียงสภา เดียว ดำเนินกิจกรรมทางการเมือง โดยมีพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวคือ พรรค โครงการสังคมนิยมพม่า ในด้านเศรษฐกิจกำหนดให้ทรัพยากรธรรมชาติรวมทั้งที่ดินตก เป็นสมบัติของแผ่นดิน การประกอบธุรกิจเอกชนรัฐอนุญาตให้ดำเนินการภายใต้ ขอบเขตที่กำหนดนโยบายการบริหารประเทศคือนโยบายเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ประกาศยกเลิกสัญญาเมืองปางหลวงดำเนินการปิดประเทศ และ ปราบปรามชนกลุ่ม น้อยที่แยกตนเป็นอิสระกลุ่มต่าง ๆ โดยลือว่ากลุ่มต่างๆ เหล่านี้เป็นกบฎ ทำให้กอง กำลังชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่ถึง 16 กลุ่ม อาทิ เช่น กลุ่มกะเหรี่ยง มอญ คะยา กลุ่ม ไทยใหญ่ ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณชายแดนไทย-พม่า รวมถึงราษฎรในพม่าเองซึ่ง ต้องประสบปัญหาภายในของพม่าเอง ทั้งจากปัญหาทางการเมืองและสภาวะเศรษฐกิจ ตกตํ่าเกิดการจลาจลขยายไปทั่วเมืองใหญ่ ๆ ในด้นปี พ.ศ.2531 นายพลเนวิน จึงได้ลา ออกจากผู้นำรัฐบาล หลังจากปกครองประเทศนานถึง 26ปี จนกระทั่งสมัยรัฐบาลพล แอนภายใต้การนำของ ดร.หม่อง หม่อง สถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองก็ ยังไม่ดีขึ้น การจลาจลลุกลามไปทั่วประเทศ คณะทหารนำโดยนายพล ซอหม่อง ได้ทำ รัฐประหารขึ้นปกครองประเทศในวันที่ 18 กันยายน พ.ศ.2531 และได้ดำเนินการปราบ ปรามประชาชนกลุ่มผู้ต่อด้านรัฐบาลอย่างรุนแรง จนเกิดเหตุการณ์นองเลือดครั้งใหญ่ รวมทั้งไม่ยอมถ่ายโอนอำนาจให้แก่รัฐบาลพลเรือนคือพรรค เอ็น แอล (NLD) ของนาง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น