ใน พ.ศ. 2504
องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (อสท.) ได้รับความร่วมมือ อย่างดียิ่งจากชุพาลงกรฌ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยศิลปากร ในการจัดอบรมหลักสูตรมัคคุเทศก์อย่างต่อเนื่องกันถึง 6
ร่น ในระยะเวลาเพียงสองปี ทั้งนี้เพื่อให้มัคคุเทศก์ที่ประกอบอาชีพอยู่แล้วได้มี
โอกาสเข้ารับการอบรมอย่างทั่วถึง หลังจากนั้นก็ได้เพิ่มความถี่ในการจัดอบรม
จากปีละหนึ่งใน
สลับกันระหว่างจุฬา
และศิลปากร เป็นปีละสองในสาม นอกจากนั้น มหาวิทยาลัยศิลปากรยังได้จัดการ
อบรมในหลักสูตรปริญญาตรี
ซึ่งนักศึกษาผู้เลือกเรียนและสอบผ่านจะได้รับประกาศนียบัตรมัคคุเทศก์
พร้อมกับปริญญาบัตรด้วย ต่อมาภาควิชาศิลปาชีพ คณะมนุษยศาสตร์
มหาวิยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ จัดอบรมในหลักสูตรให้นิสิตภาควิชาดังกล่าวพร้อมกันนั้นก็ได้จัดอบรมหลักสูตรวิชาการท่องเที่ยว
หลักสูตรการอบรม
สำหรับบัณฑิตรองาน
ซึ่งได้ช่วยผลิตมัคคุเทศก์ระดับบัณฑิตสู่ตลาดเพิ่มขึ้น (วิริยากา ช่างเรียน, 2541, น.3-4)สำหรับในต่างจังหวัดบัน หลักสูตรมัคคุเทศก์ก็ได้รับความสนใจและก็ได้รับการอบรมตามภาคต่างๆ
เริ่มจากภาคเหนือตอนบนด้วยความร่วมมือของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภาคเหนือตอนล่างโดยมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒน์ พิษนุโลก ภาคใต้
ด้วยความร่วมมือของมหาวิยาลัยสงขลานครินทร์และภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยมหาวิยาลัยขอนแก่น
หลักสูตรการอบรมได้พัฒนาปรับปรุงตลอดมา ทั้งในด้านเนื้อหาวิชาและภาษาต่างประเทศ
ซึ่งแต่เดิมมีเฉพาะภาษาอังกฤษ
แต่สำหรับบางภาษาซึ่งคนไทยน้อยคนจะได้เรียนผู้ ก็ได้จัดการอบรม ภาษานั้นๆ
ให้กับมัคคุเทศก์ที่ผ่านการอบรมแล้ว เช่น ภาษาเกาหลี ภาษาญี่ปุ่น ภาษาฝรั่งเศส
เป็นด้น การอบรมหลักสูตรมัคคุเทศก์ จะช่วยให้ความผู้พื้นฐานที่เป็นประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพ
การกำหนดคุณสมบัติของผู้เข้ารับการอบรมจึงมีเพียงเป็นคนสัญชาติไทยและจบมัธยมศึกษาตอนปลาย
หรือเพียบเท่าขึ้นไป เพราะการเรียนการสอนก็คือการสรุปความผู้เกี่ยวกับบ้านเมือง สถานที่สำคัญต่างๆ ให้เป็นกลุ่มเป็นตอน
สะดวกแล่การถ่ายทอดความผู้อย่างถูกด้อง เป็นขั้นตอนง่ายต่อการเข้าใจ
มัคคุเทศก์เป็นอาชีพที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ฃเพราะเป็นผู้มีโอกาสได้
ใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยว
สามารถทำให้เขาเกิดความประทับใจได้ทั้งในทางดีและทางร้าย ล้ามัคคุเทศก์
ทำคัวเป็นเพื่อนที่ดี ผู้รับบริการจะมองคนไทยทั้งชาติในแง่ดี พูดถึงบ้านเราในทางที่ดีคนที่ได้พึ่งก็ต้อง
สนใจบ้านเรา อยากมาเที่ยวบ้านเรา มัคคุเทศก์จึงควรช่วยกันสอดส่องดูแล
คอยกำจัดบุคคลที่จะเข้ามา ทำความเสียหาย โดยเฉพาะคนต่างชาติซึ่งจะเอาแต่ประโยชน์ไม,สนใจต่อผลร้าย เพราะบ้านเมืองนี้ ไม,ใช่ของเขา
อาชีพมัคคุเทศก์ จะคงอยู่ไม,ได้ล้าปราศจากนักท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว
จะมีชีวิตชีวาน่าสนใจก็ด้วยการบรรยายให้ความผู้ของมัคคุเทศก์ นักท่องเที่ยวจะสะดวกสบายได้ทั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น